ข้อสอบ GAT1 พฤศจิกายน 2557

ข้อสอบ ความถนัดทั่วไป (GAT1)

คะแนนเต็ม 150 คะแนน เวลาในการทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที

บทความที่ 1 – การล่วงละเมิดทางเพศ … ภัยใกล้ตัวสตรี

การล่วงเกินหรือการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรีเป็นปัญหาที่มีมานาน ข่าวครึกโครมที่สะเทือนสังคมในช่วงที่ผ่านมาคือการข่มขืนฆ่าเด็กหญิงในขบวนรถไฟแล้วโยนศพทิ้งข้างทาง และข่าวการข่มขืนฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่จริง ความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศประกอบด้วยการกระทำหลายอย่าง ไม่ได้จำกัดเฉพาะการข่มขืนกระทำชำเรา หรือข่มขืนฆ่าดังตัวอย่างเหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำอนาจารตั้งแต่เบาไปหาหนัก เช่น การล่วงเกินทางเพศด้วยท่าที ท่าทาง คำพูด หรือด้วยสายตา ตลอดจนการกระทำที่ส่อเจตนาล่วงละเมิดทางเพศ ได้แก่ การถูกเนื้อต้องตัว การแตะต้องลูบคลำบริเวณของสงวน การกอดจูบ เป็นต้น นอกจากนี้ การล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เกิดกับผู้หญิงเท่านั้น แม้ผู้ชายก็ถูกกระทำได้ แต่ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะเหตุปัจจัยและแนวทางป้องกันแก้ไขการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง โดยจะสรุปสาระสำคัญบางประเด็นที่คุณสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แสดงความเห็นเมื่อเร็วๆนี้ในรายการเจาะข่าวเช้านี้ (ช่วงวิเคราะห์เจาะลึก) ของสถานีวิทยุจุฬา ซึ่งดำเนินรายการโดย ดร.ธีรารัตน์ พันทวี

สำหรับเหตุปัจจัยนั้นมีอยู่หลายอย่าง แต่ละอย่างล้วนมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำที่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการทำอนาจาร การข่มขืนกระทำชำเรา จนรุนแรงถึงขั้นข่มขืนฆ่าดังเหตุการณ์ที่เป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ เหตุโดยพื้นฐานคือ เรื่องค่านิยมทางด้านเพศที่มีทัศนคติว่าผู้ชายมีอำนาจมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า อยู่ในอาณัติของผู้ชาย จะกระทำอะไรอย่างไรก็ได้ และเมื่อมีเหตุปัจจัยอื่นประกอบ ได้แก่ สถานที่เอื้ออำนวย เช่น เป็นที่เปลี่ยว แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือประจวบกับโอกาสเหมาะ เช่น ผู้หญิงเดินมาคนเดียว หรือมีสิ่งกระตุ้นจนทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งที่สำคัญคือสุราและยาเสพติด เป็นต้น

การล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในบ้านเรา เป็นเพราะการลงโทษผู้กระทำผิดเบาเกินไปหรืออย่างไร ประเด็นนี้คุณอำนวยมีความเห็นว่า โทษที่กฎหมายกำหนดเหมาะสมแล้ว เพราะโทษขั้นสูงสุดก็คือประหารชีวิต ดังที่ศาลได้ตัดสินให้ประหารชีวิตจำเลยที่ข่มขืนฆ่าเด็กหญิงบนรถไฟ แต่จุดอ่อนในขณะนี้คือ กระบวนการที่จะนำผู้กระทำผิดขึ้นมาถึงศาลยุติธรรม เช่น มีการยอมความกันได้ หรือไกล่เกลี่ยให้ยอมรับเงินตอบแทน อย่างไรก็ตาม เรื่องการเพิ่มโทษหรือแก้จุดอ่อนดังกล่าวยังนับว่าเป็นการตั้งรับ ที่สำคัญกว่าคือต้องเน้นเรื่องแนวทางการป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงแก้ไขพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้มีสถานที่เอื้ออำนวยต่อการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ ถนนหนทางที่เปลี่ยว มืด แสงสว่างไม่เพียงพอ เรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การให้ความรู้เรื่องการป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นต้นว่า ให้รู้ว่าการกระทำอย่างไรเป็นความเสี่ยงหรือเป็นการเอื้ออ้านวยต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เช่น การไม่รักนวลสงวนตัว การแต่งกายที่ล่อแหลม การแสดงท่าทีกิริยาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ระมัดระวังที่ส่อถึงการยั่วยุ การเดินบนถนนตรอกซอกซอยที่มืดและเปลี่ยว บริเวณที่ดินหรือตึกรกร้าง โดยเฉพาะเวลากลางคืน

แนวทางการป้องกันทั้งสองประการดังกล่าวนี้ จะช่วยลดปัญหาการกระทำทุกอย่างที่จัดเป็นการล่วงละเมิดทางเพศลงได้

คุณอำนวยย้ำในช่วงท้ายว่า ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ต้องเน้นเรื่องการป้องกัน โดยเริ่มจากจุดเล็กที่สุดคือครอบครัว ให้มีความรู้ในการป้องกัน ให้สื่อสารกันระหว่างสมาชิกครอบครัว ช่วยให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ มีอาชีพ ไม่มียาเสพติดและอบายมุข ชุมชนต้องมีหน่วยงานต่างๆ จัดการให้ความรู้และดูแลให้ทุกพื้นที่มีความปลอดภัย ปราศจากปัจจัยเสี่ยง ทั้งนี้มีความมั่นใจว่า “ตำบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง” ซึ่งกำลังพยายามดำเนินการให้เกิดขึ้นให้ได้ 1000 ตำบลภายในปีงบประมาณ 2558 นี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันแก้ปัญหาความรุนแรง ซึ่งรวมถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศด้วย

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
01 การข่มขืนกระทำชำเรา
02 การข่มขืนฆ่า
03 การทำอนาจาร
04 การปรับปรุงแก้ไขพื้นที่เสี่ยง
05 การให้ความรู้เรื่องการป้องกัน
06 ความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ
07 ทัศนคติว่าผู้ชายมีอำนาจมากกว่าเพศหญิง
08 แนวทางป้องกันแก้ไข
09 สถานที่เอื้ออำนวย
10 เหตุปัจจัย

บทความที่ 2 – ความสุขของคนอาเซียน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้ดูรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเรื่อง ความสุขของคนอาเซียน ซึ่งเคยออกอากาศมาแล้ว รู้สึกแปลกใจว่าทำไมประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง คือสิงคโปร์จึงเป็นประเทศที่มีพลเมืองมีความสุขน้อยที่สุดในโลก ในขณะที่ประเทศเวียดนามซึ่งประชากรมีรายได้น้อยกว่ามากมายหลายเท่าจึงมีความสุขมากที่สุดเป็นหนึ่งของอาเซียนและเป็นอันดับสองของโลก ทำให้รู้สึกข้องใจจนต้องตามไปดูรายการย้อนหลังของไทยพีบีเอส คือรายการ Asean Beyond 2015 ซึ่งออกอากาศครั้งแรกเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

ความสุขของคนอาเซียน ที่จะเล่าสู่กันฟังเป็นข้อสรุปของ The Happy Planet Index (HPI) ซึ่งเป็นองค์กรที่สำรวจประชากรโลกแต่ละประเทศว่ามีความสุขมากน้อยเพียงใด ปรากฏว่า 40 อันดับแรกของโลกเป็นประเทศกลุ่มอาเซียนถึง 5 ประเทศ คือเวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และลาว โดยอยู่ในอันดับ 2, 14, 20, 24 และ 37 ตามลำดับ แต่ความสุขของคนอาเซียนที่จะกล่าว ในบทความนี้จะไม่ครอบคลุมประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ จะพูดถึงเฉพาะความสุขของคนสิงคโปร์ และความสุขของคนเวียดนามและคนลาว

เกิดอะไรขึ้นกับความสุขของคนสิงคโปร์ ทำไม HPI จึงสรุปว่าประชากรสิงคโปร์มีความสุขน้อยที่สุด ชาวสิงคโปร์ชื่อ เลียง เซ เฮียง ซึ่งเป็นชายวัยเกษียณอายุจากการทำงาน เจ้าของบล็อกชื่อดังที่วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยเน้นประเด็นเรื่องคนยากจนและคนไร้บ้าน และมีชาวสิงคโปร์ติดตามงานเขานับล้านคน ให้สัมภาษณ์ทีมงานผู้จัดทำรายการถึงสถานการณ์ของสิงคโปร์ว่ามีคนทำงานราว 2 ล้านคน แต่คนทำงานกว่า 460,000 คนมีรายได้ต่ำ คือต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน คนทำงานชาวสิงคโปร์มีชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์มากที่สุดในโลก คือ 48 ชั่วโมง ในขณะที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก เพียง 2 สถานการณ์ก็ลดความสุขของคนสิงคโปร์ลงมากมายอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกสถานการณ์หนึ่งคือ คนสิงคโปร์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่กับความกลัว ความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจคือ กลัวว่าหากล้มป่วยลงจะไม่มีเงินพอเสียค่ารักษาพยาบาล เพราะรัฐบาลจะไม่ช่วยเลย กลัวว่าหากเกษียณอายุจากการทำงานจะไม่มีเงินใช้จ่ายจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เพราะเงินบำนาญเป็นเงินของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีเงินสมทบจากรัฐบาล ต้องภาวนาว่าอย่าให้ตกงาน อย่าให้เจ็บป่วย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจต้องขายทรัพย์สิน ขายบ้าน กลายเป็นคนไร้บ้านอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังกลัวถูกปรับเงิน เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองแห่งการถูกปรับ มีป้ายห้ามกระทำการต่าง ๆ พร้อมบอกค่าปรับมากมาย สูงสุดคือ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ถ้าให้อาหารลิง แท็กซี่ทำผิดกฎจราจรจะถูกปรับครั้งละ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งก็คือครึ่งหนึ่งของรายได้แต่ละวัน สถานการณ์แต่ละอย่างที่กล่าวมานี่เองที่บั่นทอนความสุขของคนสิงคโปร์ และทำให้คนสิงคโปร์มีรอยยิ้มน้อยที่สุดในโลก จนรัฐบาลต้องทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนยิ้มให้กัน

ส่วนประเทศเวียดนามและลาวนั้น ถึงแม้จะเป็นประเทศกำลังพัฒนาและมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP เทียบไม่ได้เลยกับสิงคโปร์ แต่ผู้คนกลับมีความสุขมากกว่าคนสิงคโปร์ จากการติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน สัมภาษณ์ครูสอนดนตรีและสอนคณิตศาสตร์ชาวเวียดนาม 2 คน และครูสอนวรรณคดีชาวลาวอีก 1 คน โดยทีมงานผู้ทำรายการ เห็นชัดเจนว่าความสุขของคนเวียดนามและคนลาวมีอยู่ 2 ประการเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญคือ ความสุขจากการทำงานที่ชอบ ครูทั้งสามคนเล่าว่ามีความสุขมากขณะที่สอนนักเรียน ได้เห็นนักเรียนเข้าใจและทำได้ในสิ่งที่สอนก็ยิ่งมีความสุข ครูทั้ง 3 คนยืนยันว่ามีความสุขทั้งๆ ที่เงินเดือนค่อนข้างน้อย เมื่อถามว่าทำอย่างไรจึงจะพอค่าใช้จ่าย คำตอบคือครูเวียดนามหารายได้เสริมจากการสอนพิเศษ ส่วนครูลาวได้จากการรับทำพิธี สู่ขวัญในโอกาสต่างๆ และลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินโดยปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงไก่ไว้กินไข่

สำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั้งสองประเทศ คนในทำงานที่อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพฯ บอกว่ารู้สึกอิจฉามากเพราะตนเองต้องเร่งรีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เดินทางฝ่าการจราจรอันคับคั่งนานนับชั่วโมงกว่าจะถึงที่ทำงาน ตรงข้ามกับครูลาวท่านนั้น พอตื่นเช้าก็นึ่งข้าวเหนียว เดินตามสบายกับลูกสาวออกจากบ้านซึ่งอยู่ในซอยเล็กๆ มารอตักบาตรที่ริมถนน พอรับพรจากพระเสร็จก็เดินกลับบ้าน ช่วยทำกับข้าวแล้วรับประทานข้าวเช้าร่วมกัน เสร็จแล้วจึงแต่งตัวเดินทางด้วยรถเมล์ไปสอนหนังสือ เมื่อมองโดยภาพรวมแล้วสรุปได้ว่า ความสุขจากการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย คือความสุขอีกประการหนึ่งของคนเวียดนามและคนลาว

หวังว่าผู้มีโอกาสได้อ่านบทความนี้ คงได้ข้อคิดบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินชีวิตให้มีความสุขโดยไม่ต้องพึ่งพาวัตถุและปัจจัยภายนอกมากนัก หากท่านสนใจ ผู้เขียนบทความนี้ขอแนะนำให้หาหนังสือที่กล่าวถึงเรื่องความสุข ซึ่งพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เขียนไว้หลายเล่มมาอ่าน แล้วท่านจะรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
11 คนทำงานกว่า 460,000 คนมีรายได้ต่ำ
12 คนสิงคโปร์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่กับความกลัว
13 ความสุขของคนเวียดนามและคนลาว
14 ความสุขของคนสิงคโปร์
15 ความสุขของคนอาเซียน
16 ความสุขจากการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย
17 ความสุขจากการได้ทำงานที่ชอบ
18 ชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์มากที่สุดในโลก
19 มีรอยยิ้มน้อยที่สุดในโลก
20 สถานการณ์ของสิงคโปร์

เฉลย

บทความที่ 1 – การล่วงละเมิดทางเพศ … ภัยใกล้ตัวสตรี

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
01 การข่มขืนกระทำชำเรา 99H
02 การข่มขืนฆ่า 99H
03 การทำอนาจาร 99H
04 การปรับปรุงแก้ไขพื้นที่เสี่ยง 01F 02F 03F 09F
05 การให้ความรู้เรื่องการป้องกัน 01F 02F 03F
06 ความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ 01D 02D 03D
07 ทัศนคติว่าผู้ชายมีอำนาจมากกว่าเพศหญิง 01A 02A 03A
08 แนวทางป้องกันแก้ไข 04D 05D
09 สถานที่เอื้ออำนวย 01A 02A 03A
10 เหตุปัจจัย 07D 09D

บทความที่ 2 – ความสุขของคนอาเซียน

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
11 คนทำงานกว่า 460,000 คนมีรายได้ต่ำ 14F 19A
12 คนสิงคโปร์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่กับความกลัว 14F 19A
13 ความสุขของคนเวียดนามและคนลาว 16D 17D
14 ความสุขของคนสิงคโปร์ 99H
15 ความสุขของคนอาเซียน 13D 14D
16 ความสุขจากการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย 99H
17 ความสุขจากการได้ทำงานที่ชอบ 99H
18 ชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์มากที่สุดในโลก 14F 19A
19 มีรอยยิ้มน้อยที่สุดในโลก 99H
20 สถานการณ์ของสิงคโปร์ 11D 12D 18D

Leave a Reply

Thumbnails managed by ThumbPress